- ชื่อวิทยาศาสตร์ Oldenlandia corymbosa L. ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Hedyotis corymbosa (L.) Lam. จัดอยู่ในวงศ์เข็ม
- สมุนไพรหญ้าลิ้นงู มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า จุ่ยจี้เช่า จั่วจิเช่า (จีนแต้จิ๋ว), สุ่ยเฉียบฉ่าว สุ่ยเซี่ยนเฉ่า เสอเสอเฉ่า (จีนกลาง) เป็นต้น
- ต้นหญ้าลิ้นงู จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกขนาดเล็กคลุมดิน มีอายุได้ประมาณ 1 ปี มีลำต้นเลื้อยยาวเป็นข้อ ๆ ประมาณ 6-10 นิ้ว มียอดสูงประมาณ 15-50 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะเล็กยาว เรียบเกลี้ยงเป็นเหลี่ยม ระหว่างข้อมีร่องเล็ก ๆ ตามความยาวของลำต้น แตกกิ่งก้านสาขาออกมาก ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นพรรณไม้ที่ชอบขึ้นตามที่ชื่นแฉะ พบได้ในภูมิอากาศเขตร้อนถึงร้อนชื้นของประเทศในแถบแอฟริกา เอเชีย แคริบเบียน อเมริกา ออสเตรเลีย และแปซิฟิก
- ใบหญ้าลิ้นงู ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปหอกเรียวแหลมขนาดเล็ก ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-3.5 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 1.5-3 เซนติเมตร หลังใบคดงอ ขอบใบหยาบ ไม่มีก้านใบ มีหูใบขนาดเล็ก
- ดอกหญ้าลิ้นงู ออกดอกเป็นช่อ ช่อหนึ่งจะมีดอกประมาณ 2-5 ดอก แยกออกจากกันเป็นคู่ ๆ โดยจะออกตามง่ามใบ ช่อดอกยาวประมาณ 0.6-2 เซนติเมตร ดอกมีสีขาวหรือสีแดงอ่อน ดอกย่อยยาวประมาณ 2.5 มิลลิเมตร แตกออกเป็นแฉก 4 แฉก ด้านนอกมีขนปกคลุม เป็นรูปกรวย ดอกมีเกสรเพศผู้ 5 อัน มีรังไข่ 2 อัน ส่วนก้านดอกยาวประมาณ 0.6-2 เซนติเมตร
- ผลหญ้าลิ้นงู ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงกลม ผลมีสันสี่มุม ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.5 มิลลิเมตร เปลือกนอกแข็งไม่แตก เมื่อแก่ปลายผลจะแตกออก ภายในผลมีเมล็ดขนาดเล็ก ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก มีลักษณะเป็นเหลี่ยม ๆ
ทั้งต้นมีรสขม เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อปอด ตับ และลำไส้
- ใช้เป็นยาขับพิษร้อนถอนพิษไข้ (ทั้งต้น)
- ใช้เป็นยาแก้ไข้มาลาเรีย ด้วยการใช้ลำต้นสดประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มเอาแต่น้ำกิน (ต้น,ทั้งต้น)
- ใช้เป็นยาแก้ลำไส้อักเสบ มะเร็งในลำไส้ ด้วยการใช้ลำต้นสดประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มเอาแต่น้ำกิน (ต้น,ทั้งต้น)
- ช่วยแก้ฝีในท้อง ด้วยการใช้หญ้าลิ้นงูประมาณ 20-40 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน (ทั้งต้น)
- ช่วยรักษาบำบัดอาการหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย ท้องอืด ท้องเฟ้อ โรคบิด ท้องผูก และยังช่วยในการย่อย และช่วยทำให้เจริญอาหารได้อีกด้วย (ทั้งต้น)
- ใช้ฆ่าพยาธิ (ทั้งต้น)
- ช่วยปกป้องตับ (ทั้งต้น)
- ช่วยขจัดสารพิษ (ทั้งต้น)
- ลำต้นสดนำมาต้มเอาน้ำใช้ชะล้างแผลฝีบวม แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก (ต้น,ทั้งต้น)
- ใช้เป็นยารักษาฝีปวดบวม ด้วยการใช้หญ้าลิ้นงูสดนำมาตำให้ละเอียดแล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็นฝี (ทั้งต้น)
- ในประเทศจีนจะใช้หญ้าริ้นงูเป็นยารักษาเนื้องอกบางชนิด (ทั้งต้น)
- ชาวอินเดียจะใช้หญ้าลิ้นงูทั้งต้นนำมาต้มในนมกับน้ำตาลเพื่อใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอกอันเนื่องมาจากกรดไหลย้อน และยังใช้เพื่อรักษาโรคตับอักเสบด้วยการใช้ทั้งต้นนำมาต้มเอาน้ำกิน (ทั้งต้น)
- ชาวฟิลิปปินส์จะใช้หญ้าลิ้นงูนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยารักษาโรคกระเพาะ (ทั้งต้น)
- ชาวอินโดนีเซียจะใช้หญ้าลิ้นงูนำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยารักษาไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน (ทั้งต้น)
- เนื่องจากหญ้าลิ้นงูมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ต้านจุลชีพและโปรโตซัว จึงมีการนำมาใช้เพื่อรักษาโรคที่มีอาการอักเสบและติดเชื้อ เช่น คางทูม ทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดบวม การติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน โรคทาง เดินปัสสาวะอักเสบ ตับอักเสบ ไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน ถุงน้ำดีอักเสบ และใช้ฆ่าพยาธิ เป็นต้น (ทั้งต้น)
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของหญ้าลิ้นงู
- สารที่พบ ได้แก่ Corymbosin, Flavone, Fatty acid, Sterol, Ursolic acid เป็นต้น
- สาร Ursolic acid ในหญ้าลิ้นงูมีคุณสมบัติในการปกป้องตับ โดยสามารถลดความเป็นพิษต่อตับของยาพาราเซตามอลที่นำมาทดสอบในหนูทดลองได้
- การศึกษาในหนูทดลองพบว่าสารสกัดจากหญ้าลิ้นงูมีคุณสมบัติในการปกป้องตับจากการถูกทำลายของสารเคมีต่าง ๆ ได้แก่ Carbon tetrachloride, D-Galatosamine, Perchloroethylene โดยคุณสมบัติดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับยา Silymarin
- หญ้าลิ้นงูมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียได้ทั้งแกรมบวกและแกรมลบ และมีประสิทธิภาพในการกำจัดแบคทีเรียได้หลากหลายสายพันธุ์, ต้านยีสต์ (เช่น ยีสต์แคนดิดา), ต้านรา (เช่น ราแอสเปอร์จิลัส), ต้านโปรโตซัวที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคไข้มาลาเรีย (ภายหลังจึงได้มีการนำไปประยุกต์ใช้ในการรักษาไข้มาลาเรีย)
- จากการศึกษาในหลอดทดลองว่าสารสกัดจากหญ้าลิ้นงูมีคุณสมบัติต้านมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งเต้านม[4] หญ้าลิ้นงูมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาการเกิดในกระเพาะอาหารในหนูทดลองที่ได้รับยาแอสไพริน โดยมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับยาแลนโซปราโซลหญ้าลิ้นงูมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดได้[4] หญ้าลิ้นงูมีคุณสมบัติต้านการอักเสบในสัตว์ทดลองที่ถูกกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ
ข้อมูลอ้างอิง : https://medthai.com/