- ชื่อวิทยาศาสตร์: Cleome rutidosperma DC.
- ชื่อวงศ์: CLEOMACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ล้มลุกฤดูเดียว สูง 20-60 ซม. ลำต้นมีขนสั้นคลุมหนาแน่น เปลือกต้นกลม หรือมีเหลี่ยมเล็กน้อย สีเขียวหรือสีเขียวแกมม่วง ใบประกอบแบบสามใบย่อย เรียงแบบสลับ ใบย่อยรูปรี กว้าง 1-2 ซม. ยาว 2-4 ซม. โคนใบแหลม หรือเบี้ยว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ และมีขนสั้นนุ่มคลุม ผิวใบด้านบนมีขนประปราย ผิวใบด้านล่างมีขนสั้นคลุม ช่อดอกแบบช่อแยกแขนงออกที่ซอกใบหรือซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกย่อยสีม่วง หรือสีม่วงแกมขาว กลีบเลี้ยง 4 กลีบ มีขนเหนียว กลีบดอก 4 กลีบ เรียงเป็นแถวด้านบน คล้ายกลีบปาก กลีบดอกบาง สีม่วง รูปรีหรือรูปใบหอก ขอบกลีบเรียบ เกสรเพศผู้ 6 อัน ปลายยอดเกสรโค้งงอ อับเรณูรูปขอบขนาน สีดำ เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ก้านชูเกสรโค้งงอส่วนปลาย ปลายยอดเกสรสีเหลือง ผลแห้งแตก รูปขอบขนาน ปลายผลเรียวแหลม กว้าง 3-5 มม. ยาว 4-7 ซม. ผิวเปลือกขรุขระมีร่องตามยาว เมล็ด ขนาดเล็ก สีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม
ประโยชน์:
สรรพคุณ
- ทั้งต้น มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยต่อต้านมะเร็ง
- มีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อ
- ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย ได้แก่ แมงป่องกัด หรืองูกัด
- ราก ต้มรับประทานเป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้ตรีโทษ
- แก้อาการปวดหู
- ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
อาหาร: ทั้งต้น นิยมนำมาทำผักดอก รับประทานกินกับน้ำพริก
หมายเหตุ: แหล่งที่พบ ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (โรงเรือนกล้วยไม้)
ข้อมูลจาก Suranaree University of Technology